ล้างเครื่องซักผ้า เป็นการบำรุงรักษาเครื่องซักผ้าที่ช่วยยืดอายุการใช้งาน และทำให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าเครื่องซักผ้าก็ต้องการการทำความสะอาดเช่นกัน เนื่องจากเครื่องซักผ้ามักจะสะสมสิ่งสกปรก เช่น คราบผงซักฟอก คราบน้ำมันจากเสื้อผ้า หรือเชื้อโรคต่างๆ ในส่วนต่างๆ ของเครื่อง หากไม่ทำความสะอาดเป็นระยะๆ อาจทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นหรือแม้กระทั่งทำให้เครื่องเสียหายได้
ทำไมต้อง ล้างเครื่องซักผ้า ?
ก่อนที่จะไปดูวิธีการล้างเครื่องซักผ้า เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมถึงต้องล้างเครื่องซักผ้าด้วย:
- กลิ่นอับชื้น: เมื่อเครื่องซักผ้าใช้งานไปนานๆ มักจะเกิดกลิ่นอับ เนื่องจากความชื้นที่หลงเหลือจากการซักและไม่ถูกระบายออกอย่างดี โดยเฉพาะในส่วนที่ซ่อนอยู่ เช่น ถังซัก ผ้ารองถัง หรือปีกของเครื่อง
- สิ่งสกปรกสะสม: คราบผงซักฟอก น้ำยาเช็ดผ้า หรือสิ่งสกปรกจากการซักเสื้อผ้า อาจสะสมในเครื่องซักผ้า ทำให้การซักผ้าไม่สะอาด และอาจทำให้เครื่องทำงานหนักขึ้น
- เชื้อโรค: เครื่องซักผ้าสามารถสะสมเชื้อโรคจากการซักเสื้อผ้า เช่น เชื้อแบคทีเรียจากเสื้อผ้าสกปรก หรือจากน้ำที่ใช้ในกระบวนการซัก หากไม่ทำความสะอาดเครื่องบ่อยๆ อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
วิธี ล้างเครื่องซักผ้า
ล้างถังซักเครื่อง
- ทำความสะอาดถังซัก: ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ออกแบบมาเพื่อการล้างเครื่องซักผ้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่สามารถขจัดคราบสิ่งสกปรกที่สะสมในถังซักได้
- วิธีการ:
- เติมน้ำร้อนในเครื่องซักผ้าประมาณ 1/3 ของถัง
- ใส่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า (หรือใช้น้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดาก็ได้)
- ตั้งโปรแกรมการซักให้เป็นโปรแกรมน้ำร้อนหรือรอบล้างซ้ำๆ (ถ้ามี) จากนั้นนั่งเล่นหวยไวรอ
- ทำการล้างและปล่อยให้เครื่องซักผ้าทำงานจนเสร็จ
- ล้างเครื่องซักผ้าด้วยน้ำสะอาดเพื่อล้างสารเคมีออกให้หมด
ทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอก
- ทำความสะอาดช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม: ใช้ผ้าเปียกทำความสะอาดรอบๆ ช่องใส่ผงซักฟอกหรือช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ซึ่งเป็นที่สะสมของคราบผงซักฟอกและสิ่งสกปรกจากการซัก
- วิธีการ:
- ถอดช่องใส่ผงซักฟอกออก
- ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดบริเวณช่องใส่
- เช็ดจนสะอาด แล้วประกอบกลับไปที่เดิม
ทำความสะอาดกรอบประตูและยางซีล
- ทำความสะอาดยางซีล: ยางซีลที่ประตูเครื่องซักผ้าอาจจะมีคราบน้ำหรือเชื้อโรคสะสมอยู่ ควรทำความสะอาดด้วยการเช็ดด้วยผ้าเปียกที่มีน้ำส้มสายชูผสม เพื่อขจัดคราบต่างๆ
- วิธีการ:
- ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเช็ดรอบๆ ยางซีล
- เช็ดซ้ำด้วยผ้าแห้งจนหมดคราบ
การล้างกรองเครื่องซักผ้า
- ทำความสะอาดกรองเครื่องซักผ้า: เครื่องซักผ้ามักมีกรองที่จับเส้นผมและสิ่งสกปรกจากการซัก ควรทำความสะอาดกรองนี้ทุก 3-6 เดือน
- วิธีการ:
- ถอดกรองออกจากเครื่องซักผ้า
- ใช้น้ำล้างทำความสะอาด หรือใช้แปรงขนนุ่มช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ติดกรอง
- เช็ดให้แห้งและติดตั้งกลับไปที่เดิม
ทำความสะอาดภายนอกเครื่องซักผ้า
ทำความสะอาดภายนอกเครื่อง: อย่าลืมทำความสะอาดภายนอกเครื่องซักผ้าด้วยการเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ เพื่อลบรอยนิ้วมือหรือคราบต่างๆ ที่อาจสะสมบนตัวเครื่อง
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า
ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องซักผ้า “Lysol Washing Machine Cleaner”
ผลิตภัณฑ์นี้สามารถขจัดคราบสะสมและกลิ่นอับในเครื่องซักผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจสะสมในเครื่อง
ผลิตภัณฑ์ “Clorox Washing Machine Cleaner”
ช่วยในการทำความสะอาดถังซักและขจัดคราบสกปรกในเครื่องซักผ้า ด้วยสูตรที่สามารถขจัดคราบผงซักฟอกและน้ำมันจากเสื้อผ้า
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า “TWINBIRD”
ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องซักผ้าจาก TWINBIRD ที่ช่วยขจัดคราบและสิ่งสกปรกสะสมในเครื่องซักผ้า ช่วยให้เครื่องซักผ้าทำงานได้มีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน
น้ำส้มสายชู (Vinegar)
น้ำส้มสายชูเป็นวิธีทำความสะอาดเครื่องซักผ้าแบบธรรมชาติที่สามารถขจัดกลิ่นอับและคราบสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยฆ่าเชื้อโรคที่สะสมในเครื่องได้
เบกกิ้งโซดา (Baking Soda)
เบกกิ้งโซดาสามารถช่วยขจัดคราบและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ดี โดยการผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำในถังซัก แล้วทำการล้างเครื่องตามปกติ
สรุป
การล้างเครื่องซักผ้าเป็นการบำรุงรักษาที่สำคัญ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้า แต่ยังช่วยให้การซักผ้ามีประสิทธิภาพและสะอาดยิ่งขึ้น วิธีการล้างที่กล่าวถึงสามารถทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้เวลามาก และการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าที่มีคุณภาพจะช่วยให้การล้างเครื่องซักผ้าเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
Comments are closed